บล๊อก ตรวจดูให้แน่ใจว่าคุณมีการรายงานและการวิเ...

ตรวจดูให้แน่ใจว่าคุณมีการรายงานและการวิเคราะห์ที่ชัดเจนแล้วสำหรับ iOS114

ตั้งแต่ที่ Apple ได้ปล่อยข้อบังคับ AppTracking Transparency เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทั้งนักพัฒนาและนักการตลาดแอปต่างมานั่งคำนวณหาผลกระทบที่เกิดในอุตสาหกรรมกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าในช่วงแรกนี้เริ่มจะสังเกตุเห็นผลกระทบกับแล้ว แต่เรื่องที่ซับซ้อนเหล่านี้ในระยะยาวมันจะค่อยๆเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

ในช่วงปีที่ผ่านมาเราได้มีการพูดคุยกับบรรดาผู้ลงโฆษณาและเน็ตเวิร์คโฆษณาต่างๆ เกี่ยวกับความคิดเห็นที่ว่าพวกเขาคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงของอีโคซิสเต็มการตลาดแอปอย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้ นี่จะเป็นครั้งแรกในบล๊อกซีรี่ย์ของเราที่จะมาจุดประกายให้กับหัวข้อที่ซับซ้อนเหล่านี้มีความกระจ่างมากขึ้น

ในบล๊อกของเราก่อนหน้านี้ได้พูดถึงเรื่อง การเรียกเก็บเงินที่ซ้ำซ้อน, ถ้าอย่างงั้นเรามาดูการรายงานและการวิเคราะห์กัน

ใช้การวิเคราะห์ iOS14 ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด

ด้วยปริมาณผู้ใช้งานที่ยอมแชร์ IDFA ของพวกเขาน้อยลง แล้วผู้ลงโฆษณาจะวิเคราะห์ประสิทธิภาพแคมเปญของพวกเขาด้วยชุดข้อมูลและวินโดว์การวัดผลที่จำกัดโดย SKAdNetwork ได้อย่างไร? เป็นเรื่องสำคัญมากที่ผู้ลงโฆษณาทั่วทั้งอีโคซิสเต็มจะได้รับความรู้ในทุกๆ ทางเลือกที่มีเพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าอะไรที่ใช่สำหรับธุรกิจของพวกเขา

เราได้เผยถึงตัวเลือกที่เจอบ่อยที่สุดและการทำงานร่วมกันเพื่อให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเรานึกภาพออกว่าพวกเขาควรจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับการวิเคราะห์โลกในยุคก้าวผ่าน IDFA — และวิธีการที่ Adjust สามารถช่วยได้

SKAdNetwork เท่านั้น

เราให้ความช่วยเหลือแบบเต็มที่สำหรับฟีเจอร์ของ SKAdNetwork ผ่าน การอ่านผลด้วยภาพในเครื่องมือ Data Canvas ใหม่ของเรา และผลิตภัณฑ์ Adjust Automate ซึ่งใช้งานอยู่แล้ว.

Apple เสนอ SKAdNetwork ครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งเป็นวิธีการใหม่ในการวัดผลแคมเปญ ที่ไม่มีข้อมูลระดับบุลคล (user level) เฟรมเวิร์คของ SKAdNetwork ซึ่งมาพร้อม iOS 14 ได้รับการพัฒนาและขยาย เนื่องจาก Apple ต้องการลดผลกระทบจากการที่ทำให้นักพัฒนาแอปเข้าถึง IDFA ได้น้อยกว่าเดิม

SKAdNetwork มีเนื้อที่สำหรับตัวบ่งชี้ปลายน้ำขนาด 6 บิต ตัวเลขระหว่าง 0 ถึง 63 (หรือระหว่าง 000000 และ 111111 ในระบบเลขฐานสอง) มีไทม์เมอร์เบื้องต้นที่ 24 ชั่วโมง 'Conversion value' นี้สามารถมอบหมายค่าใดก็ได้ ที่ต่อไปจะแสดงออกในระบบเลขฐานสอง ทุกครั้งที่มีการอัพเดต conversion value นี้ ในโค้ดหกบิตใหม่เอี่ยมซึ่งกำหนดในแอป จะช่วยขยายเวลาในหน้าต่างไทม์เมอร์เพิ่มอีก 24 ชั่วโมง

เมื่อใดที่ไทเมอร์แรกหมดอายุ ไทม์เมอร์ 24 ชั่วโมงตัวใหม่สำหรับการระบุแหล่งที่มาจะเริ่มนับถอยหลัง ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงนี้ SKAdNetwork จะคืนข้อมูล attribution ในลักษณะสุ่ม การที่ต้องจับเวลาแบบสุ่มก็เพื่อสร้างความสับสนคลุมเครือให้เวลาดาวน์โหลด เพื่อตัวกระตุ้นให้เกิดอีเวนต์จะไม่สามารถเชื่อมโยงกับผู้ใช้คนใดคนหนึ่งได้ ระบบ SKAdNetwork ยังแชร์ข้อมูลนี้ในข้อมูลรวม(aggregate) โดยไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลในรายละเอียดในระดับผู้ใช้งานได้(user-level)

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้ SKAdNetwork จะมีการวิเคราะห์ผู้ใช้งานหน้าใหม่เพียงเล็กน้อยหรือก็ไม่วิเคราะห์เลย ทุกๆ เมตริกเช่น Cohorts, ROAS, LTV จะเป็นไปไม่ได้เลยหรือไม่แม่นยำซึ่งจะเป็นงานยากที่จะวิเคราะห์ประสิทธิภาพ กรณีเดียวเลยที่พอจะเป็นไปได้ก็คือผู้ลงโฆษณาเจ้าที่ซื้อ CPI และมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดความเกี่ยวข้องกับ conversion ภายใน 24 ชั่วโมงแรก ถ้าเป็นกรณีนี้ล่ะก็ SKAdNetwork อย่างเดียวก็น่าจะทำงานได้ดีพอ

SKAdNetwork และ Extended Privacy Measurement

ในมุมนี้ SKAdNetwork จะเป็นแหล่งการเรียกเก็บเงินที่เป็นจริงหากว่าเน็ตเวิร์คพาร์ทเนอร์สนับสนุน SKAdNetwork อย่างเต็มที่ — การเรียกเก็บเงินที่โปร่งใส. ยังไงก็ตามสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพนั้นก็ยังมีทางเป็นไปได้ที่จะพึ่งโซลูชั่น Extended Privacy Measurement ของ Adjust นอกจากข้อมูล SKAdNetwork แล้วเรายังมีการวิเคราะห์ซึ่งสามารถลงมือทำได้จริงให้แก่ผู้ลงโฆษณาอีกด้วย

การที่ใช้ Extended Privacy Measurement ทำให้ผู้ลงโฆษณาสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพแคมเปญของพวกเขาได้ทั้งการรวมข้อมูลและข้อมูลดิบเพื่อพัฒนาศักยภาพแอปของตัวเอง ซึ่งวิธีการนี้จะไม่มีการแชร์ข้อมูลไปยังช่องทางของบุคคลที่สาม — เว้นแต่ว่าจะเป็นข้อมูล SKAdNetwork เท่านั้น

SKAdNetwork และ Probabilistic Attribution

เรื่องนี้ก็คล้ายกับกรณีข้างบนโดย SKAdNetwork จะเป็นแหล่งการเรียกเก็บเงินที่เป็นจริงสำหรับสื่อที่เป็นพาร์ทเนอร์ถึงแม้ว่าจะใช้การระบุแหล่งที่มาไม่ตายตัวก็ตาม และกับการระบุแหล่งที่มาไม่ตายตัวนั้น ผู้ลงโฆษณาจะได้รับ postback ที่คล้ายกันผู้ลงโฆษณาผ่าน Extended Privacy Measurement แต่ถึงอย่างนั้นวิธีการนี้จะส่ง postback ไปยังช่องทางสื่อด้วย ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าแคมเปญของตัวเองนั้นมีประสิทธิภาพอย่างไรและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ล้ำค่าสำหรับผู้ลงโฆษณาของพวกเขาเอง

ข้อเสียหลักๆ เลยก็คือมันไม่ตายตัวและเป็นการคาดเดาในกรณีที่ดีที่สุดจากการระบุแหล่งที่มา และนั่นก็จะหมายความว่าความแม่นยำของมันจะไม่ตรงกับการติดตั้ง SKAdNetwork ในบางกรณี เราก็เห็นความแตกต่างแบบมีนัยสำคัญเนื่องจากลักษณะของทั้ง attribution method และ attribution window มันต่างกัน ยังไงก็ตาม มันจะยังคงให้ข้อมูลบางระดับแก่ audience ในทุกช่องทางสื่อเพื่อที่พวกเขาจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญฐานะของโปรแกรมที่อยู่ในนามของผู้ลงโฆษณา

เราเชื่อว่านี่คือวิธีการที่ดีที่สุดที่เน็ตเวิร์คใช้การระบุแหล่งที่มาไม่ตายตัวสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพแต่จะต้องพึ่งพา SKAdNetwork ในจุดประสงค์การเรียกเก็บเงินเท่านั้น ด้วยวิธีนี้จะเป็นการหลบหลีกการเรียกเก็บเงินที่ซ้ำซ้อนได้อย่างที่เราเคยได้เตือนไปแล้ว ในโพสต์ของ blog ตัวก่อน.

ถ้าคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของ iOS14 อย่าละเลยที่จะสอบถามไปที่ CSM หรือผู้จัดการบัญชีของคุณ และให้ความสนใจกับ Adjust blog ที่กำลังจะมาถึงในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับการเตรียมตัวในช่วงที่ใกลเปิดใช้ความเปลี่ยนแปลงของ iOS14 และเข้ามาดู iOS 14 resource center.

อยากรู้ข้อมูลเชิงลึกของแอปเป็นรายเดือนไหม เป็นสมาชิกจดหมายข่าวของเราได้