บล๊อก เตรียมพร้อมสำหรับ opt-in: การได้รับความย...

เตรียมพร้อมสำหรับ opt-in: การได้รับความยินยอมจากยูซเซอร์ใน iOS 14

มันเป็นฤดูร้อนที่ชุลมุนน่าดู เมื่ออุตสหากรรมดิจิทัลเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านความเป็นส่วนตัวเนื่องจาก iOS 14 เปิดตัว อัพเดทนี้วางแผนไว้ว่าจะปล่อยในเดือนกันยายน, ยูซเซอร์จะสามารถควบคุมเรื่องข้อมูลความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้มากขึ้น และมีความโปร่งใส่ยิ่งขึ้นเมื่อมีใครจะนำข้อมูลนี้ไปใช้ เรื่องนี้จะส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อวิธีที่นักโฆษณาจะตั้งเป้าหมายยูซเซอร์บน iOS และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดคือแอปจะต้องส่งคำขอถึงยูเซอร์เพื่อยินยอมให้ติดตามข้อมูลโดยใช้ข้อความป๊อพอัพที่จะโผล่ขึ้นภายในแอป

สำหรับผู้อ่านที่กำลังมองหาข้อมูลใหม่ๆ สำหรับกรณีที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมดิจิทัลนี้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน โพสต์ก่อนหน้าของเรา สำหรับ iOS 14 แล้ว นักพัฒนาแอปมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวที่จะทำให้ป๊อพอัพขออนุญาตจาก Apple เด้งในแอป จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องปรับแต่งแอปให้เข้ากับข้ออนุญาตนั้น

Adjust ได้มุ่งค้นคว้าวิธี opt-in ในทันทีเพื่อช่วยให้คุณตั้งค่าป๊อบอัพสำเร็จลุล่วง เราจะมาแชร์คำแนะนำของเราในรูปแบบบล็อกโพสต์ ส่วนโพสต์เริ่มต้นในวันนี้ จะเกี่ยวกับการกำหนดกลยุทธ์ UX ของคุณ และดีไซน์ภายในให้ดูจูงใจ ซึ่งพวกเราที่ Adjust เรียกว่า "pre-permission prompt"

ตัวอย่างที่โชว์ให้เห็นเป็นหน้าการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวแบบใหม่ใน iOS 14 เพื่ออนุญาติให้ติดตามระหว่างแอป และให้แอปสามารถส่งคำขอเพื่อเก็บข้อมูลได้

กำหนดกลยุทธ์ UX ของคุณ

หากจะกำหนดกลยุทธ์ UX เราแนะนำให้เริ่มจากลูกค้าโดยสร้างแผนผังพฤติกรรมของยูเซอร์ในระดับไมโคร ยกตัวอย่างในแอปเกมอาจเริ่มตั้งแต่การเดินทางของยูซเซอร์จนถึงการซื้อของภายในแอป ควรมีไอเดียที่ชัดเจนว่าคุณต้องการขอคำยินยอมจากผู้ใช้ตอนไหน และจำเป็นต้องมีขั้นตอนทดสอบตำแหน่งต่างๆเพื่อประเมินประสิทธิภาพของตำแหน่งนั้นๆด้วย ซึ่งนี่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการตั้งค่าเมื่อมีการขอสิทธิ์อื่นๆ หรือหลังจาก trigger บางอย่างเช่น ได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งอยู่ในแอปของคุณหรือทำภารกิจได้สำเร็จ

เราแนะนำแบรนด์ทั้งหลายให้ใช้ pre-permission prompt เพื่อขอความยินยอม ก่อนที่ป๊อพอัพ iOS จะโผล่ขึ้นมา ซึ่งคำสั่งนี้เป็นของคุณทั้งหมด ดังนั้นคุณสามารถปรับแต่งดีไซน์ และเขียนข้อความให้เข้ากับแอปของคุณได้ให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งมันทำงานเหมือนกับแบบฟอร์มคำขออนุญาตภายในแอปของคุณเอง คุณสามารถเห็นวิธีการทำงานได้จากตัวอย่างข้างล่างนี้

ดีไซน์ pre-permission prompt ให้ดูชักจูง

หลังจากคุณมองหาโอกาสขออนุญาตใน user experience จากแอปของคุณ ตอนนี้คุณสามารถระบุโอกาสที่จะใช้วิธีการชักจูงใน interface ได้ กรณีนี้ เราจะใช้ Stephen Wendel’s CREATE framework เพราะมันสามารถอธิบายเงื่อนไขเริ่มต้นที่จำเป็น เพื่อโน้มน้าวยูซเซอร์ให้ทำตาม

สิ่งเร้า ยูซเซอร์ของคุณต้องการแรงกระตุ้นบางอย่างเพื่อให้พวกเขาเริ่มคิดถึงเรื่องการให้ความยินยอมเพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ยกตัวอย่างเช่น หัวข้อที่มีความหมายสำคัญ รูปวาดที่เข้าใจง่าย หรือภาพเคลื่อนไหว เช่นตัวอย่างภาพประกอบด้านล่างนี้ คุณสามารถลองทำตามตัวอย่างนี้ได้

  • ทำการกระตุ้นการยินยอม - โดยบอก ยูเซอร์ของคุณไปตรงๆ เลยครับ ว่าพวกเขาควรอนุญาติให้เข้าถึงข้อมูลได้
  • เพิ่มแรงกระตุ้นให้กับสิ่งเร้า - ด้วยข้อความที่ชัดเจนและเข้าใจได้โดยทั่วกันว่าคำขออนุญาตอยู่ตรงไหน
  • ขจัดสิ่งรบกวนออกไป - นำสิ่งที่ดูเป็นการทำให้ไขว้เขวหรือเบี่ยงเบนความสนใจในการขออนุญาตออกไปจากหน้าจอเสีย

การตอบสนอง ยูซเซอร์ของคุณจะตอบสนองไปตามสัญชาตญาณว่าจะให้อนุญาตหรือไม่ให้ ภายในเสี้ยววินาที การตอบสนองตามสัญชาตญาณของ ยูซเซอร์จะเกิดขึ้นเมื่อข้อเสนอนั้นน่าพึงพอใจ น่าสนใจหรือเห็นว่าสำคัญสำหรับพวกเขา ฉะนั้น คุณต้องดีไซน์เพื่อเอาชนะการตอบสนองนี้ เพื่อให้ยูซเซอร์ของคุณไม่ปฏิเสธการขออนุญาตในทันทีทันใด ซึ่งผลลัพท์ที่จะเกิดขึ้นควรเป็นการ จุดชนวนความรู้สึกในเชิงบวกจาก notification center ในแอปของคุณ แต่ถ้าต้องการเอาชนะการตอบสนองเชิงลบ ลองทำตามนี้ดู:

  • เพิ่มความมั่นใจ - ด้วยการออกแบบหน้าจอสกรีนให้สวยงาม เพื่อแสดงให้เห็นว่าการให้ความยินยอมนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
  • เพิ่มความน่าไว้วางใจ ว่าการยินยอมครั้งนี้เป็นความเห็นชอบทางสังคม - ให้ยูซเซอร์ ซึมซับได้ว่าการตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำเพื่อสังคม เหมือนกับเข้าร่วมสังคมที่ใหญ่ขึ้น ตามตัวอย่างด้านล่าง
  • ป้องกันการปฏิเสธโดยอัตโนมัติ - สื่อสารกับยูซเซอร์ของคุณแบบตรงไปตรงมา ด้วยข้อความที่ชัดเจน ใช้ภาษาที่เป็นมาตรฐาน และเข้าใจได้โดยทั่วกัน

การประเมิน ยูซเซอร์ของคุณจะประเมินข้อดี ข้อเสีย ของการให้อนุญาตอย่างมีสติ การกระทำและขั้นตอนที่จำเป็นในการให้อนุญาต ต้องเป็นประโยชน์กว่าการกระทำอื่นๆ ที่ยูซเซอร์สามารถทำได้ในตอนนั้น ยกตัวอย่างยูซเซอร์ของคุณอาจตัดสินใจให้การยินยอม เนื่องจากทราบว่าจะมีสิ่งรบกวนน้อยลง เช่นโฆษณาแบบสุ่ม คุณสามารถศึกษาการสนทนาแบบทางเดียวจากกราฟฟิกด้านล่างนี้ เพื่อรองรับขั้นตอนการประเมิน ลองทำตามรูปแบบนี้ได้เลย

  • กรอบโน้มน้าว - ก่อนที่ยูซเซอร์จะมาถึงหน้าจอ pre-permission prompt ของคุณ เตรียมความพร้อมของยูซเซอร์คุณด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องก่อน
  • เพิ่มแรงจูงใจ - เปรียบเทียบการตัดสินใจของยูซเซอร์คุณกับยูซเซอร์อื่นๆ
  • ตัวเลือกที่จำกัด - หลีกเลี่ยงตัวเลือกการตัดสินใจที่มากเกินไป

ความสามารถ ยูซเซอร์ของคุณต้องมีโอกาสให้ดำเนินการในช่วงเวลานั้นๆ คุณต้องสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพว่ายูซเซอร์ของคุณต้องทำอะไร พวกเขาจะเอาชนะอุปสรรค และสำเร็จได้อย่างไร จากตัวอย่าง จะสาธิตเป็นแอนิเมชั่นง่ายๆ ที่สื่อว่าการอนุญาตสามารถแสดงผลได้ด้วยภาพ iOS ป็อพอัพกราฟฟิกรูปนิ้วเพื่อคลิ๊กไปที่ "ยินยอม" นี่คือสิ่งที่คุณทำได้:

  • ตั้งค่าเริ่มต้นเท่าใหร่ก็ได้ - ตั้งค่าเริ่มต้นที่คุณต้องการ หากคุณทำได้
  • ลดข้อจำกัด - ลดความยุ่งยากของผู้ใช้ลง

ช่วงเวลา เราแนะนำให้สื่อสารเรื่องความสำคัญของการให้ความยินยอมตอนนี้เลย ดีกว่าทำในภายหลัง คุณควรยกตัวอย่างสำคัญๆ ที่บอกว่าการให้อนุญาตในเวลานี้สำคัญกับ user experience อย่างไร แทนที่จะให้การยินยอมในสัปดาห์หลังๆ ซึ่งคุณสามารถใช้ประโยชน์จากความรู้สึกที่ว่า 'ไม่อยากสูญเสีย' และสื่อสารไปว่ายูซเซอร์จะพลาดอะไรไป ถ้าหากไม่กดยินยอมในตอนนี้

  • กรอบเวลาเร่งด่วน - เขียนก็อปปี้ที่เน้นในเรื่องของผลประโยชน์ระยะสั้น
  • กระตุ้นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน - แจ้งเตือนยูซเซอร์ของคุณเพื่ออนุญาตให้เข้าถึงข้อมูล

สิ่งที่จำเป็นเหล่านี้ควรถูกดีไซน์ให้ยูซเซอร์ของคุณ ให้ ความยินยอม และในกรณีที่ยูซเซอร์ต้องผ่านหลายขั้นตอนก่อนจะให้ความยินยอมนั้น คุณควรเช็คว่าเงื่อนไขทั้งหมดได้รับการเติมเต็มสำหรับแต่ละขั้นตอนระหว่างทางหรือไม่ คุณยังสามารถทดลองกับการผสมผสานมุมมองต่างๆ ภายในกรอบเดียวกัน ตามตัวอย่างด้านล่างนี้

ความสำคัญในการทดสอบ

หลังจากที่คุณตัดสินใจได้แล้วว่า UX จะเข้าหายูซเซอร์ตอนไหน ที่ไหน และ อย่างไร เพื่อให้ได้รับการยินยอมจากยูซเซอร์งานของคุณไม่ควรหยุดเพียงแค่นั้น สู้ต่อไปครับ แอปทุกตัวจะแตกต่างกันไปตามฐานยูซเซอร์และบริบทที่ต้องใช้ เราสนับสนุนให้มีการทดสอบและทดลองใช้อย่างเข้มงวด ด้วยวิธีการเข้าถึงแบบทั่วไปที่ใช้ในการค้นคว้าด้านดีไซน์ เช่น การทดสอบ A/B และ การทดลองควบคุมแบบสุ่ม

เรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับลูกค้าหลายเจ้า เพื่อจัดเตรียมวิธีเข้าหาแบบอิงจากข้อมูลที่ opt-in อย่างเหมาะสม และเราจะแชร์บทเรียนที่เราได้ ในซีรีส์ของบล็อกโพสต์ และการสัมนาออนไลน์ ดั้งนั้นจับตาดูบล็อกของ Adjust เพื่อความรู้เพิ่มเติม

อยากรู้ข้อมูลเชิงลึกของแอปเป็นรายเดือนไหม เป็นสมาชิกจดหมายข่าวของเราได้